กิจกรรมบทที่ 4 ระบบไฟล์และโฟลเดอร์




1. ไฟล์(File) คืออะไร
ตอบ   ไฟล์ (อังกฤษ: file) หรือ แฟ้ม ในทางคอมพิวเตอร์หมายถึงกลุ่มระเบียนสารสนเทศใด ๆ หรือทรัพยากรสำหรับเก็บบันทึกสารสนเทศ ซึ่งสามารถใช้งานได้กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และโดยปกติจะอยู่บนหน่วยเก็บบันทึกถาวรบางชนิด ซึ่งไฟล์นั้นคงทนถาวรในแง่ว่า ยังคงใช้งานได้สำหรับโปรแกรมอื่นหลังจากโปรแกรมปัจจุบันใช้งานเสร็จสิ้น ไฟล์คอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นของทันสมัยคู่กับเอกสารกระดาษ ซึ่งแต่เดิมจะถูกเก็บไว้ในตู้แฟ้มเอกสารของสำนักงานและห้องสมุด จึงเป็นที่มาของคำนี้
อ้างอิง  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C


2. โฟลเดอร์  คืออะไร
ตอบ  ในคอมพิวเตอร์ โฟลเดอร์ (อังกฤษ: folder) เป็นแฟ้มข้อมูลจำลองที่เอาไว้บรรจุไฟล์คอมพิวเตอร์ ปรากฏให้เห็นเป็นสัญลักษณ์รูปแฟ้มในระบบปฏิบัติการที่มีส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ นอกจากในโฟลเดอร์จะใช้เก็บไฟล์ได้แล้ว ยังสามารถใช้เก็บโฟลเดอร์ด้วยกันเองได้อีกด้วย โฟลเดอร์มีชื่อเรียกอีกมากมายเช่น แคตตาล็อก (catalog) ซึ่งใช้เรียกในคอมพิวเตอร์แอปเปิล 2 และคอมพิวเตอร์คอมโมดอร์ 128 หรือ ลิ้นชัก (drawer)[1] เป็นต้น
อ้างอิง  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C


3. มีวิธีการย้ายไฟล์ที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ทำอย่างไร จงอธิบายขั้นตอน


ตอบ 

การเคลื่อนย้าย (Move) การคัดลอก (Copy) ไฟล์หรือโฟลเดอร์

      การคัดลอก (Copy) ไฟล์หรือโฟลเดอร์ เป็นการทำสำเนาข้อมูลไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่งเมื่อผู้ใช้คัดลอกแล้วจะได้ไฟล์หรือโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่เหมือนกับของเดิม การเคลื่อนย้าย (Move) ไฟล์หรือโฟลเดอร์ จะเป็นการย้ายไฟล์หรือโฟลเดอร์จากที่เดิมไปยังที่ใหม่ ซึ่งการคัดลอกและการย้ายนี้สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้คือ

1. การเคลื่อนย้าย และคัดลอก ด้วยวิธีลากแล้วปล่อย (Drag and Drop)

         1) คลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการย้ายหรือคัดลอก โดยกดเมาส์ข้างซ้ายค้างไว้
         2) จากนั้น
         ถ้าต้องการ ย้ายไฟล์หรือโฟลเดอร์ ให้แดรกเมาส์ไปยังโฟลเดอร์ปลายทาง โดยที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ต้นทางต้องอยู่ไดร์ฟ (Drive) เดียวกันกับโฟลเดอร์ปลายทาง มิฉะนั้นจะกลายเป็นการคัดลอก
         ถ้าต้องการ คัดลอกไฟล์หรือโฟลเดอร์ ให้แดรกเมาส์พร้อมกับกดแป้น <Ctrl> แล้วลากไปยังโฟลเดอร์ปลายทาง เมื่อถึงปลายทาง (ปรากฏแถบสีที่โฟลเดอร์ปลายทาง) จึงปล่อยเมาส์ โดยที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ต้นทาง ต้องไม่อยู่ไดร์ฟ (Drive) เดียวกันกับโฟลเดอร์ปลายทาง

ห้สังเกตตัวชี้เมาส์ ขณะที่กดแป้น <Ctrl> จะมีลักษณะ

2. การเคลื่อนย้ายและคัดลอก ด้วยวิธีตัด>วาง/คัดลอก>วาง (Cut>Paste/ Copy>Paste)

        1) คลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการย้ายหรือคัดลอก
        2) จากนั้น
            * ถ้าต้องการ ย้าย (Cut) ไฟล์หรือโฟลเดอร์ให้เลือกคำสั่งย้ายจากเมนู Edit > Cut หรือคลิกปุ่ม Cut )บนทูลบาร์ หรือคลิกขวาเรียกเมนูลัด > Cut หรือ กดแป้น <Ctrl> + <X>
            * ถ้าต้องการ คัดลอก (Copy) ไฟล์หรือโฟลเดอร์ ให้เลือกคำสั่งคัดลอกจากเมนู Edit > Copy หรือ คลิกปุ่ม Copy ) บนทูลบาร์ หรือคลิกขวาเรียกเมนูลัด > Copy หรือกดแป้น <Ctrl> + <C>
        3) เลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่จะนำข้อมูลไปวาง
        4) เลือกคำสั่งวาง (Paste) จากเมนู Edit > Paste หรือคลิกปุ่ม Paste ) บนทูลบาร์ หรือคลิกขวาเรียกเมนูลัด > Paste หรือกดแป้น <Ctrl> + <V>
        5) ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ย้ายหรือคัดลอกจะไปปรากฏยังหน้าต่างที่เลือกไว้


3. การคัดลอก (Copy) ด้วยคำสั่ง Send To

         1) คลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการย้ายหรือคัดลอก
         2) คลิกขวาเพื่อเรียกเมนูลัด (Pop up menu)
         3) เลือกคำสั่ง Send To
         4) เลือกไดร์ฟหรือโฟลเดอร์ปลายทางที่ปรากฏเพื่อนำข้อมูลไปวาง
อ้างอิง  http://www2.tsu.ac.th/cst/course/basic_computer/filemanager7.html
4. บอกประโยชน์ของการจัดเรียงไฟล์ มา 5 ข้อ


ตอบ 
ประโยชน์ของการจัดข้อมูล
 
      1.สามารถค้นคว้าข้อมูล/สารสนเทศที่อยู่ในแฟ้มข้อมูลและทำการปรับปรุง (Update) ข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา
      2.สามารถประมวลผลชุดคำสั่งที่เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลได้
      
      3.สามารถสร้าง ตั้งชื่อหรือเก็บแฟ้มข้อมูลนั้นไว้ใช้ประโยชน์ต่อไปได้
      4.สามารถสร้างสำเนา ย้ายและลบแฟ้มข้อมูลเมื่อไม่มีความจำเป็นในการใช้งานแล้ว
      5.สามารถนำการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้
        
      6.สามารถรับแฟ้มข้อมูลจากโปรแกรมอื่นเข้ามาสู่แฟ้มข้อมูลเพื่อการช่วยงานร่วมกันได้
อ้างอิง  http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type1/tech03/29/con3_2.html 
 5. เราสามารถ ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ กี่วิธี อะไรบ้าง จงอธิบาย




ตอบ 
ตามปกติการปิดคอมพิวเตอร์ ต้องไล่หาปุ่ม Shut down แบบต่างๆทั้งการคลิกเม้าส์แบบหลายขั้นตอน หรือใช้นิ้วกวาดไล่หา shut down  และปุ่ม Power บนคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่เมื่อกดแล้วจะเป็นการเข้าสู่ sleepmode มากกว่าเป็นการปิดเครื่อง เพราะบางครั้งต้องการปิดแค่หน้าจอชั่วคราวแล้วกดปุุ่ม power อีกครั้งเพื่อเปิดเครื่องพร้อมการใช้งานอย่างรวดเร็ว วันนี้เลยนำเสนอวิธีการตั้งค่าเพื่อให้คุณสามารถทำการ Shut down ปิดเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

เปลี่ยนปุ่ม Power ให้เป็นปุ่ม Shut down ไปเลย


โดยกดปุ่ม Windows + Q เพื่อเข้าสู่หน้า Search จากนั้นพิมพ์ Power Options แล้วเลือกที่  Power Options   จากนั้นดูที่แถว When i press the power button ใน on battery และ plugged in ให้เลือกเป็น shut down ทั้งคู่ เพื่อบังคับว่า เมื่อกดปุ่ม Power ปิดเครื่องก็คือการ shut down ปิดเครื่องเลย เสร็จแล้วคลิก ok เท่านี้ก็เรียบร้อย

สร้าง shortcut แล้วทำการรันโปรแกรมนี้ Shut Down ทันที

วิธีนี้สุดคลาสสิคมากตั้งแต่ Windows 95 เลย จนถึง Windows 10 ก็ยังใช้วิธีนี้ได้ โดยการสร้าง Shortcut ตรงหน้า desktop เลย  โดยลองคลิกขวาที่หน้าจอ desktop แล้วเลือกที่ NEW >> เลือก shortcut  >>  จากนั้น copy ข้อความสีฟ้านี้   %windir%\System32\shutdown.exe /s /t 0   มา paste วางตามรูปเลย แล้วคลิก Next แล้ว คลิก Finish   แค่นี้ก็สร้างโปรแกรม shutdown บนหน้าจอ desktop แล้ว สามารถลากมาวางไว้ใน taskbar หรือจุดอื่นๆตามต้องการ  โดยหากต้องการปิดเครื่อง  ก็คลิกที่ shortcut ที่สร้างเมื่อสักครู่นี้  เครื่องคอมคุณก็จะปิดทันที

อ้างอิง  https://www.it24hrs.com/2015/settings-to-shut-down-windows-easy/

 6. การเลือกไฟล์ มีกี่วิธี อะไรบ้าง



ตอบ 

1. การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์เดียว

     

    เมื่อต้องการกำหนดสิ่งต่างๆ ให้กับไฟล์หรือโฟลเดอร์ เช่น การเปลี่ยนชื่อ การลบ การคัดลอกการย้าย ฯลฯ ไม่ว่าจะทำกับไฟล์หรือโฟลเดอร์เดียว หรือหลายโฟลเดอร์ก็ตาม จะต้องทำการเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ก่อน ซึ่งการเลือกนั้นสามารถแบ่งลักษณะการเลือกได้หลายวิธีดังนี้
         1) คลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ
         2) จะปรากฏแถ

2. การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่เรียงติดกัน

         สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้ คือ
         วิธีที่ 1
               1) แดรกเมาส์เป็นเส้นทแยงให้มีกรอบล้อมรอบไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการเลือก
               2) จะปรากฏแถบสีเข้มบริเวณไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้น


         Note : การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ในหน้าต่าง Windows Explorer จะต้องทำที่หน้าต่างส่วนที่อยู่ทางด้านขวามือเท่านั้น
         วิธีที่ 2
               1) คลิกไฟล์หรือโฟลเดอร์แรกที่ต้องการเลือก
               2) กดแป้น <Shift> ค้างไว้ และคลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์สุดท้าย ไฟล์ทั้งหมดระหว่างไฟล์ แรกและไฟล์สุดท้ายจะถูกเลือก


  
          Note : การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ในหน้าต่าง Windows Explorer จะต้องทำที่หน้าต่างส่วนที่อยู่ทางด้านขวามือเท่านั้น

3. การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไม่เรียงติดกัน

         1) คลิกที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการเลือก
         2) กดแป้น <Ctrl> ค้างไว้ และคลิกเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์อื่นๆ ที่ต้องการจนครบ
แล้วปล่อยแป้น <Ctrl>


        Note : การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ในหน้าต่าง Windows Explorer จะต้องทำที่หน้าต่างส่วนที่อยู่ทางด้านขวามือเท่านั้น

4. การเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ทั้งหมด

         สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้ คือ
         วิธีที่ 1
               1) คลิกเลือกเมนู Edit
               2) เลือกคำสั่ง Select All
               3) ไฟล์และโฟลเดอร์ที่แสดงในหน้าต่างจะถูกเลือกทั้งหมด

บสีเข้มบริเวณไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้น
  วิธีที่ 2
              1) กดแป้น <Ctrl> + <A>
              2) ไฟล์และโฟลเดอร์ที่แสดงในหน้าต่างจะถูกเลือกทั้งหมด
อ้างอิง  http://www2.tsu.ac.th/cst/course/basic_computer/filemanager6.html



7. การจัดเรียงไฟล์มีกี่วิธี อะไรบ้าง อธิบาย



ตอบ
การจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์
ผู้ใช้สามารถจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์ได้ตามความต้องการ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการค้นหา ดังขั้นตอนต่อไปนี้ ...


bullet 1. คลิกเลือกเมนู View หรือ คลิกปุ่มขวาของเมาส์บริเวณพื้นที่ว่างๆ
bullet 2. คลิกเลือก Arrange Icons by
bullet 3. คลิกเลือกคำสั่งการจัดเรียงตามรูปแบบที่ต้องการ มีอยู่ 4 แบบ ดังนี้
bullet แบบเรียงตามชื่อ (Name)
bullet แบบเรียงตามขนาดของไฟล์ (Size)
bullet แบบเรียงตามชนิด (Type)
bullet แบบเรียงตามวันที่ที่ทำการแก้ไขครั้งล่าสุด (Modified)
อ้างอิง  http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/tech04/25/File&Folder4.html
8. เหตุใดจึงต้องมีการบีบอัดไฟล์


ตอบ  
การบีบอัดข้อมูล (data compression) เป็นสาขาวิชาหนึ่งในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หมายถึง การศึกษาวิธีการในการจัดเก็บข้อมูล ที่ทำให้ใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บน้อยลง
การบีบอัดข้อมูล มีความสำคัญในระบบการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากทำให้เก็บหรือรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น โดยใช้เนื้อที่เท่าเดิม (คำว่าเนื้อที่นี้ อาจจะเป็นเนื้อที่จัดเก็บข้อมูล หรือเนื้อที่ในช่องสัญญาณก็ได้)
การบีบอัดข้อมูลแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ตามคุณภาพของข้อมูลที่ถูกบีบอัดแล้ว คือ
  1. การบีบอัดข้อมูลแบบไม่สูญเสีย (lossless data compression) เช่น การบีบอัดข้อมูลแบบ LZW ฯลฯ
  2. การบีบอัดข้อมูลแบบสูญเสียบางส่วน (lossy data compression) เช่น การบีบอัดภาพแบบ JPEG, การบีบอัดเสียงแบบ MP3 ฯลฯ

อ้างอิง  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5


Reviewed by สุนันทา ภูมิภักดิ์ on 01:17 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.